กาแฟนั้นเพาะปลูกได้ดีเฉพาะในพื้นที่ใกล้เส้นศูนย์สูตรที่เรียกกันว่า
Coffee
belt เป็นพืชที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีตำนวนเรื่องเล่ามากมาย
พืชสกุลกาแฟนั้นมีหลายชนิด (Species) เช่น อราบิก้า (Arabica)
โรบัสต้า (Robusta) ลิเบอริก้า (Liberica)
เอ๊กเซลซ่า (Excelsa) เป็นต้น
แต่ละชนิดก็แตกสายพันธุ์ออกมามากมาย รวมถึงมีการผสมข้ามสายพันธุ์ด้วย อย่างเช่น
ทิปปิก้า (Typica) เบอร์บอน (Bourbon) บลูเมาเท่น
(Blue Mountain) คาทูรา (Caturra) โคน่า
(Kona) เค้นท์ (Kent) เค 7 (K7)
แคททูร่า (Caturra) มอนโดโนโว (Mundo
Novo) คาติมอร์ (Catimor) เป็นต้น
แต่กาแฟที่สำคัญและปลูกเป็นการค้ามี 2 ชนิดหลักคือกาแฟชนิดอราบิก้าและชนิดโรบัสต้า
ผลผลิตโดยรวมของโลกนั้นเป็นชนิดอราบิก้าประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์
และชนิดโรบัสต้าประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์
ประเทศไทยนั้นก็มีการเพาะปลูกกาแฟทั้ง
2
ชนิด คือ โรบัสต้าและอราบิก้า นับเป็นสัดส่วนประมาณ 90:10 เปอร์เซ็นต์ ดังนี้
- กาแฟชนิดอราบิก้า
(Arabica : Coffea arabica) ปลูกบนพื้นที่สูงทางภาคเหนือของไทย
(สูงจากระดับน้ำทะเล 1,800 ฟุต –
6,300 ฟุต หรือความสูง 548 เมตร –
1,920 เมตรจากระดับน้ำทะเล) เพราะอราบิก้านั้นจะเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิที่เหมาะสม
12- 21 องศาเซลเซียส
ผลผลิตกาแฟอราบิก้าในภาคเหนือในแต่ละปีมีประมาณ 3,500 – 4,000 ตันต่อปี อราบิก้านั้นมีความโดดเด่นในเรื่องของกลิ่นและรสชาติที่นุ่มลิ้น
และกลมกล่อม มีความเป็นกรดสูง เมล็ดอราบิก้านั้นมีคุณภาพที่ดี
ด้วยกลิ่นที่หอมจรูงใจนี้จึงนิยมนำไปทำเป็นกาแฟคั่วบดและชงเป็นกาแฟสด (Brewed
coffee)
ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้นะคะ
ในตอนหน้าเรามาต่อกันด้วย กาแฟชนิดโรบัสต้าว่ามีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างไรบ้างค่ะ
Cr.เทรนเนอร์เกียว
พบกับหลากหลายบทความดี
ๆ จากประสบการณ์ความรู้และทักษะของเหล่า ❝ เทรนเนอร์
ฮิลล์คอฟฟ์ ❞ ได้ที่นี่ www.facebook.com/ilovehillkoff
และ www.hillkoff.com
และ http://ilovehillkoff.blogspot.com/
ในบทความดี
ๆ ตอนต่อไปนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น