ห่วงโซ่อุปทานของกาแฟชนิดพิเศษ (Specialty Coffee Supply Chain) นั้นค่อนข้างซับซ้อน มันคือการเชื่อมโยงหลายภาคส่วนที่แตกต่างกันเข้าด้วยกัน ตลอดเส้นทางการผลิต เมล็ดกาแฟต้องพบกับการคุกคามที่ไม่เพียงแต่กระทบกับคุณภาพของกาแฟเท่านั้น ในบางครั้งก็ถึงกับเสียหายไปทั้งหมด ในทุกๆ วัน กาแฟต้องต่อสู่กับสภาพอากาศ โรคและแมลง ความแห้งแล้ง การขาดแคลนแรงงาน แรงกดดันของตลาด สิ่งเหล่านี้มีผลต่อเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ที่จะดูแลต้นกาแฟของพวกเขาให้แข็งแรงและมีความสุข
ความยั่งยืนของต้นกาแฟ หรือ ความสามารถที่จะยืนหยัดต่อสู้ ขึ้นอยู่กับความสามารถที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่างๆ ที่กล่าวมา ทั้งนี้ต้องพึ่งพาการวิจัย หรือการแบ่งปันสิ่งที่ค้นพบ เพื่อให้ทุกคนในอุตสาหกรรมมีวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) เหมือนๆ กัน อนาคตของกาแฟนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงแต่กับการปลูกกาแฟเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการปลูกพืชชนิดอื่นๆ และสิ่งแวดล้อมของโลกใบนี้
ในอุตสาหกรรมการผลิตกาแฟ (และอุตสาหกรรมเกษตรอื่นๆ) คำว่า "ความยั่งยืน" สื่อได้หลายความหมาย หากจะจัดเป็นหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง สามารถจัดได้ดังนี้ เศรษฐกิจ (แรงงาน ค่าจ้าง และการผลิต) ระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม (พลังงาน ของเสีย น้ำ สิ่งก่อสร้าง) การเมือง (หน่วยงานรัฐ กฏหมาย ความเป็นผู้นำ การสื่อสาร) วัฒนธรรม (สังคม สุขภาพ ความเชื่อ การศึกษา) หากลองพิจารณาดู จะพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะค้นหาจุดเริ่มต้น หรือเลือกว่าสิ่งใดเป็นความจำเป็นเร่งด่วน แต่เรารู้แน่ๆ ว่า "ความยั่งยืน" ที่แท้จริงคือการเดินทางที่จุดหมายไม่ได้อยู่ใกล้เพียงแค่วันเดียว แต่เป็นการเดินทางที่ยาวนานกว่า 1 ชั่วอายุคน สิ่งสำคัญที่เราต้องจดจำก็คือความพยายามเล็กๆ ของเราในวันนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของความยั่งยืนในอนาคต ซึ่งส่งผลต่อคนรุ่นหลัง
จุดหมายของเรา ในฐานะส่วนหนึ่งของชุมชนกาแฟ ไม่ใช่เพียงแค่ตอบคำถามว่าจะทำกาแฟที่ดีได้อย่างไร? แต่คือการปรับปรุงวิธีการทำงานของเราในวันนี้ เพื่อเป้าหมายความยั่งยืนของวงการกาแฟในอนาคต
เรียบเรียงโดย: ฝ่ายวิชาการและพัฒนาหลักสูตร ศูนย์การเรียนรู้ ฝึกอบรม กาแฟและเครื่องดื่ม ฮิลล์คอฟฟ์
Cr. http://www.scaa.org/chronicle/2015/10/30/how-can-we-make-coffee-better-letter-from-the-editor/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น