การลดอุณหภูมิหลังการคั่วเสร็จ :
หลังจากการคั่วกาแฟด้วยอุณหภูมิและระยะเวลาต่าง ๆ จนได้ระดับการคั่วที่ต้องการแล้ว
จะต้องมีการระบายความร้อนอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันกาแฟไหม้
เพราะแม้หลังจากที่ดับไฟแล้วแต่อุณหภูมิก็ยังสะสมอยู่ในเมล็ดและในถังคั่วด้วย
โดยผู้คั่วจะเทกาแฟที่คั่วแล้วออกจากถังคั่วลงในถาดคูลที่มีพายกวนวนตลอด
และมีพัดลมดูดอากาศ ดูดควันกาแฟออกไป
ส่วนการพรมน้ำจะช่วยให้กาแฟคั่วลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็ว
แต่ต้องระวังเพราะการพรมน้ำที่มากเกินพอดีจะส่งผลต่ออายุการเก็บรักษาของกาแฟคั่วต่อไปด้วย
การเก็บรักษาเมล็ดกาแฟ :
วิธีการในการบรรจุและการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟให้มีกลิ่นและรสชาติให้คงอยู่เป็นระยะเวลานานนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตและผู้บริโภคกาแฟให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
ซึ่งกลิ่นและรสชาติของกาแฟคั่วจะเกี่ยวข้องกับปัจจัยต่าง ๆ คือ อากาศ, ความชื้น, ความร้อน, และแสงแดด
ดังนั้นเราจึงควรเก็บเมล็ดกาแฟคั่วในระบบปิดที่มืดและเย็น โดยอาจเก็บในโถสุญญากาศ
หรือในถุงฟอล์ยที่ทึบแสง เพื่อไม่ให้กาแฟสัมผัสกับก๊าซออกซิเจน
เพราะก๊าซออกซิเจนจะทำให้สารประกอบกลิ่น รส
และสารประเภทไขมันที่มีในเมล็ดกาแฟคั่วเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation)
ทำให้กาแฟสูญเสียกลิ่นและรสที่ดีไปได้อย่างรวดเร็ว
และเช่นเดียวกันอุณหภูมิที่สูงและพลังงานจากแสงแดดจะมีผลต่อการเร่งการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ทำให้สารประกอบที่ระเหยได้และระเหยไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้กลิ่นและรสชาติสูญเสีย
และทำให้เกิดการเหม็นหืนเร็วขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความชื้นหรือไอน้ำในอากาศ
เพราะเมล็ดกาแฟคั่วจะดูดความชื้นได้ง่าย
ความชื้นที่เพิ่มขึ้นจะเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชั่น และปฏิกิริยาชีวเคมีอื่น ๆ
เป็นผลทำให้คุณภาพของกาแฟด้อยลงเช่นกัน
การบรรจุ :
กาแฟที่ผ่านการคั่วแล้วจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาอย่างต่อเนื่อง
โดยจะมีอัตราการปล่อยก๊าซค่อนข้างสูงในช่วงแรก
การบรรจุกาแฟคั่วลงในภาชนะบรรจุทันทีโดยไม่มีการปล่อยให้ก๊าซระเหยออกไปบ้าง
จะทำให้ความดันภายในภาชนะบรรจุสูงมาก
จนถึงขั้นทำให้บริเวณรอยปิดผนึกของบรรจุภัณฑ์ฉีกขาด หรืออาจเกิดการระเบิด
ทำให้กาแฟฟุ้งกระจาย
ดังนั้นในการบรรจุควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันการซึมผ่านของความชื้น
และป้องกันการซึมผ่านของก๊าซต่าง ๆ เข้ามาในบรรจุภัณฑ์โดยเฉพาะก๊าซออกซิเจน
และการปล่อยผ่านก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากภายในออกสู่บรรจุภัณฑ์ด้วย
ซึ่งถุงฟอล์ยชนิดติดวาล์วสามารถตอบโจทย์ในข้อนี้ได้เป็นอย่างดี
การเก็บรักษาเมล็ดกาแฟให้สดใหม่เป็นความใส่ใจอย่างหนึ่งของบาริสต้า
ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อกลิ่นและรสชาติของกาแฟ
ร้านกาแฟร้านใดที่เก็บรักษาเมล็ดกาแฟให้สดใหม่อยู่เสมอ
เมื่อนำมาสกัดเป็นเอสเปรสโซเสริฟให้กับลูกค้าแล้วกาแฟก็จะมีรสและกลิ่นที่หอมจรุงใจ
ลูกค้าดื่มแล้วติดใจต้องกลับมาดื่มกาแฟที่ร้านของเราอีกแน่นอน
Cr.Trainer เกียว
--- พบกับหลากหลายบทความดี ๆ จากประสบการณ์ความรู้และทักษะของเหล่า ❝ เทรนเนอร์ ฮิลล์คอฟฟ์ ❞ ได้ที่นี่ www.facebook.com/ilovehillkoff และ www.hillkoff.com ในบทความดี ๆ ตอนต่อไปนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น